กฎของลูกเสือ

          คำปฏิญาณของลูกเสือไม่มีคำว่า "อย่า" หรือ "ต้อง" คือไม่มีการห้ามหรือบังคับแต่เป็นคำปฏิญาณหรือคำมั่นสัญญาที่ลูกเสือและผู้บังคับบัญชาได้้กล่าวรับรองด้วยเกียรติของตนเอง และด้วยความสมัครใจ ส่วนกฎของลูกเสือได้กำหนดไว้เป็นกลาง เพื่อให้ลูกเสือถือเป็นหลักปฏิบัติในชีวิตประจำวัน และโดยผู้บังคับบัญชาลูกเสือจะต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตามกฎของลูกเสือเป็นพิเศษ เพื่อบำเพ็ญตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ลูกเสือคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือ ทำให้้ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รู้จักบำเพ็ญประโยชน์แก่ผู้อื่น มีระเบียบวินัย อยู่ในกรอบประเพณีอันดีงาม และไม่ก่อให้เกิดความยุ่งยากใด ๆ ในบ้านเมือง ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่าการลูกเสือเป็นกำลังสำคัญส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นคงให้แก่ประเทศชาติคำว่า "ปฏิญาณ" ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานแปลว่า "การให้คำมั่นโดยสุจริตใจ"ลูกเสือจะต้องสำนึกว่า เขากล่าวคำปฏิญาณด้วยความสมัครใจของเขาเอง อนึ่ง เขาจะต้องเข้าใจด้วยว่า ผู้จะเรียกได้ว่าเป็น "คนจริง" เพื่อให้ผู้อื่นนับถือหรือเชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นผู้รักษาคำพูด โดยเฉพาะที่เป็นคำปฏิญาณหรือคำมั่นสัญญาของตนกล่าวคือ ข้าสัญญาว่าจะทำอย่างไรแล้วต้องทำเหมือนปากพูดทุกอย่าง ดังคำปฏิญาณที่กล่าวว่า

ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า

ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ

ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ

จากคำปฏิญาณข้อที่ ๑ นั้น แสดงให้เห็นว่าลูกเสือมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

ก. หน้าที่ต่อชาติ

          ชาติไทย คือ แผ่นดินและน่านน้ำที่รวมกันเรียกว่าประเทศไทย ประกอบด้วยประชาชนพลเมืองที่รวมกันเรียกว่าคนไทย ธงชาติ เป็นเครื่องหมายแทนชาติ ฉะนั้น ธงชาติจึงเป็นสิ่งที่ควรแก่การเคารพเป็นหน้าที่ของลูกเสือทุกคน จะต้องแสดงความเคารพในโอกาสที่ชักธงขึ้นสู่ยอดเสา และเวลาชักธงลงจากยอดเสาพิธีชักธงชาติขึ้นสู่เสา หรือชักธงลงจากเสานี้ เป็นพิธีสำคัญอย่างหนึ่งของลูกเสือซึ่งต้องกระทำด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ชักธงลงควรถือว่าเป็นเกียรติที่ได้รับมอบหมายให้ทำงานนี้ และจะต้องระมัดระวังไม่ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของธงสัมผัสกับพื้นดินเป็นอันขาด ลูกเสือไม่ควรกระทำการใด ๆ ในอันที่จะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่เกียรติของธงชาติ เช่น นำผืนธงไปปูพื้นเช็ดส่งของ หรือเหยียบย่ำ และกองไว้แทบเท้า ธงชาติไทยเรียกว่า "ธงไตรรงค์" แปลว่า ธงสามสี ลูกเสือควรจะทราบด้วยว่าแต่ละสีมีความหมายอย่างไร สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของธงชาติไทยคือ"เพลงชาติ" ลูกเสือและผู้บังคับบัญชาลูกเสือทุกคนจะต้องสามารถร้องเพลงชาติได้อย่างถูกต้อง

ข. หน้าที่ต่อศาสนา

ลูกเสือจะนับถือศาสนาใด ๆ ก็ได้ เพราะทุกศาสนาก็มีความมุ่งหมายอย่างเดียวกันคือให้ให้บุคคลเป็นคนดี ได้แก่ การละเว้นความชั่ว กระทำแต่ความดี และทำใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์

ค. หน้าที่ต่อประมหากษัตริย์

ผู้กำกับลูกเสือพึงหาวิธีการต่าง ๆ ที่จะทำให้ลูกเสือสนใจในพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์โดยเน้นถึงเวลาที่พระองค์ทรงอุทิศให้แก่บ้านเมือง และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมเยียนประชาชนใน
ท้องถิ่นต่าง ๆทั่วราชอาณาจักรพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของชาติ เป็นที่รวมแห่งความเคารพสักการะและความสามัคคีของคนไทยทั้งชาติ นอกจากนั้น พระองค์ทรงเป็นพระประมุขของคณะลูกเสือแห่งชาติด้วย

ง. การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น

การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นหลักการสำคัญประการหนึ่งของลูกเสือและเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้การลูกเสือมีชื่อเสียง ได้รับการยกย่องจากประชาชนโดยทั่วไปแหล่งหรือโอกาสที่ลูกเสือจะบำเพ็ญประโยชน์
นั้นควรเริ่มจากสิ่งที่ใกล้ตัวเด็กก่อนแล้วขยายออกไปตามวัยและความสามารถของเด็ก กล่าวคือ

๑. บ้านของลูกเสือ ควรส่งเสริมให้เด็กทำงานในบ้านหรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว เพื่อเป็นการเพาะนิสัยที่ดีให้แก่เด็ก

๒. โรงเรียนหรือที่ตั้งกองลูกเสือ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือควรส่งเสริมให้เด็กได้ทำงานเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ต่อห้องเรียน ต่อโรงเรียนให้มากที่สุด โดยสอนให้ลูกเสือตระหนักว่างานเป็นสิ่งที่มีเกียรติ งานเท่านั้นเป็นเครื่องวัดคุณค่าของคน

กฎของลูกเสือ

ข้อ ๑ ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้

ข้อ ๒ ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ

ข้อ ๓ ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น

ข้อ ๔ ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก

ข้อ ๕ ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย

ข้อ ๖ ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์

ข้อ ๗ ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ

ข้อ ๘ ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก

ข้อ ๙ ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์

ข้อ ๑๐ ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ

กฎของลูกเสือ ข้อ ๑๐ นี้ ได้ดัดแปลงมาจากกฎของลูกเสือข้อ ๑๐ ตามธรรมนูญของสมัชชาลูกเสือโลกที่ว่า "ลูกเสือเป็นผู้สะอาดในทางความคิด วาจา และกระกระทำ"

ข้อ ๑. ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้ลูกเสือที่แท้จริงถือว่าเกียรติของเขาสำคัญกว่าสิ่งใด เกียรติของเขาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนที่รู้จักรักษาเกียรติเป็นผู้เชื่อถือได้เสมอ เขาจะไม่กระทำสิ่งใด ๆ ที่เสียเกียรติ เช่น พูดเท็จกับผู้บังคับบัญชา หรือนายจ้าง หรือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของเขา และเขาจะทำตัวให้เป็นที่นับถือของคนทั่วไป ในฐานะที่เป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านต้องไม่ยอมให้สิ่งที่ยั่วยวนใจ ไม่ว่าจะลึกลับหรือรุนแรงเพียงไรมาชักจูงให้ท่านกระทำการใด ๆ ที่ไม่สุจริต หรือเป็นที่น่าสงสัย ท่านจะไม่ละเมิดคำมั่นสัญญาเป็นอันขาด

ข้อ ๒. ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณในฐานะเป็นพลเมืองดี ท่านจะต้องระลึกเสมอว่าท่านเป็นคนหนึ่งในคณะ หรือเป็นอิฐก้อนหนึ่งในกำแพง ท่านจะต้องทำหน้าที่ของท่านให้ดีที่สุด และซื่อตรงกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับท่าน เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง นายจ้างของท่าน ท่านจะต้องไม่ทำลายเกียรติของท่านด้วยการเล่นไม่ซื่อ นอกจากนั้น ท่านต้องไม่ทำให้ผู้ที่ไว้วางใจท่าน ไม่ว่าชายหรือหญิงต้องผิดหวัง บรรพบุรุษของท่านได้ทำงานด้วยความเข้มแข็ง รบด้วยความ
ทรหด และตายด้วยความองอาจ เพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ให้ท่าน ขออย่าให้บรรพบุรุษของท่านมองลงมาจากสวรรค์แลเห็นท่านเที่ยวเตร่ เอามือใส่กระเป๋าโดยไม่ได้ทำอะไรเพื่อบ้านเมืองเลย

ข้อ ๓. ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่นลูกเสือจะพยายามให้ความเมตตากรุณา เพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อประชาชนอยู่เสมอ ความคิดเห็นของเขามีว่าคนทุกคนต้องตาย แต่ท่านควรจะทำใจของท่านว่าก่อนเวลาจากโลกนี้ไปตามวิถีทางของธรรมชาติท่านควรจะทำ ความดีบ้าง ฉะนั้น จงทำทันที เพราะท่านไม่รู้เลยว่าเมื่อใดท่านจะต้องล่วงลับไป

ข้อ ๔. ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคนและเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลกในฐานะที่เป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านจะต้องยอมรับรู้ว่าคนอื่นเป็นเพื่อนมนุษย์ และท่านต้องไม่รังเกียจความแตกต่างในเรื่องขาดความคิด วรรณะ ศาสนา หรือชาติบ้านเมือง ท่านต้องขจัดอคติของท่านและมองหาจุดดีของคนอื่น ส่วนจุดชั่วนั้นคนโง่ก็ย่อมวิจารณ์ได้ ถ้าท่านแสดงไมตรีจิตต่อคนชาติอื่นได้เช่นนี้ก็นับว่าท่านได้ช่วยก่อให้เกิดสันติภาพและไมตรีจิตระหว่างประเทศและมวลมนุษย์ชาติได้

ข้อ ๕. ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อยในฐานะที่ท่านเป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านจะต้องสุภาพและคำนึงถึงผู้หญิง คนแก่ เด็กและบุคคลทั่ว ๆ ไป แต่ยิ่งกว่านั้น ท่านจะต้องสุภาพต่อฝ่ายตรงข้ามกับท่านด้วย รวมความว่า ท่านจะต้องเป็นสุภาพบุรุษ คือผู้ปฏิบัติตามกฎแห่งการบำเพ็ญประโยชน์ของลูกเสือ

ข้อ ๖. ลูกเสือมีความเมตรากรุณาต่อสัตว์สัตว์ทั้งหลาย มีความรักและหวงแหนชีวิตของตนยิ่งกว่าสิ่งใด ต่างก็ดิ้นรนต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด และปลอดภัยจากอันตราย ทุกชีวิตปรารถนาความสุข ความรัก ความอบอุ่น และการช่วยเหลือเกื้อกูล แต่เกลียดกลัวและหวาดระแวงต่อการล่วงเกิน เบียดเบียน และทำร้าย ภาระกิจสำคัญที่สุดของลูกเสือวิสามัญ คือการช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นจากความทุกข์ และการบริการผู้อื่นให้ได้รับความสุข ดังนั้น ลูกเสือวิสามัญทุกคน จึงควรเป็นผู้ที่มีความรักและความเมตตากรุณาต่อสัตว์ด้วย

ข้อ ๗. ลูกเสือเชื่อฟังคำสั่งของบิดามารดา และผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพในฐานะที่เป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านย่อมบังคับตนเองและเต็มใจเชื่อฟังคำสั่งของพ่อแม่ ครู อาจารย์ นายหมู่ และผู้กำกับลูกเสือ โดยชอบด้วยเหตุผล ไม่มีการโต้แย้ง ชุมชนที่มีวินัยดีเป็นชุมชนที่มีความสุขที่สุด แต่วินัยต้องเกิดมาจากภายใน มิใช่ถูกบังคับจากภายนอก ดังนั้น การปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่นจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก

ข้อ ๘. ลูกเสือมีใจร่าเริง และไม่ย่อท้อต่อความลำบากในฐานะเป็นลูกเสือวิสามัญ คนอื่น ๆ จะคอยมองดูท่านและคิดอยู่เสมอว่าท่านคงจะไม่หัวเสียและจะยืนหยัดต่อสู้ด้วยความเข้มแข็งและร่าเริง อดทนในเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น

ข้อ ๙. ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์ในฐานะท่านเป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านจะมองไปข้างหน้าและจะไม่ยอมเสียเวลาหรือเสียเงินสำหรับความสุขสำราญในปัจจุบัน แต่จะใช้โอกาสนั้น เพื่อให้ได้บรรลุความสำเร็จในหน้าที่ที่ท่านกระทำทั้งนี้เพื่อว่าจะได้ไม่ต้องเป็นภาระแก่ผู้อื่น แต่กลับจะเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย

ข้อ ๑๐. ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจในฐานะที่ท่านเป็นลูกเสือวิสามัญ ท่านต้องมีใจสะอาด คิดแต่เรื่องที่เป็นมงคล สามารถควบคุมสติและจิตใจของตนเองไม่ให้ฟุ้งซ่านใน รูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส และของมันเมาจนเกินกว่าเหตุ ท่านต้องเป็นตัวของท่านเอง และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้อื่น ในทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านคิด-พูด และกระทำโดยเฉพาะท่านควรมีสัมมาอาชีวะ คือ ต้องมีอาชีพที่สุจริตเพื่อความสุขของตนเองและสังคม